
ริบบิ้นสีขาวจะคอยเตือนให้นึกถึงความบริสุทธิ์และไร้เดียงสาที่เจ้าหันเหออกมานอกลู่นอกทาง โถ ไม่น่าเชื่อว่าพระจะไร้เดียงสาได้ยิ่งกว่าริบบิ้นขาวเสียอีก แต่นั่นก็เป็นเพียงความไร้เดียงสาจอมปลอมอันเกิดจากการเชื่อในความไร้เดียงสาตามอุดมคติว่ามีอยู่จริง ยิ่งตอนที่คุณพระแกขู่ครูผู้กล้าตั้งข้อสงสัยนี่ช่างไร้เดียงสาซะเหลือเกิน หนังขาว-ดำ เรื่องนี้ของ Haneke พูดถึงเหตุการณ์แปลก ๆ หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแบบที่ไม่มีคำอธิบายสำหรับคนในหมู่บ้านทางตอนเหนือของเยอรมัน เป็นเหตุการณ์ช่วงปีก่อนเริ่มสงครามโลกครั้งที่ 1 และหนังจบด้วยเหตุการณ์ตอนประกาศสงครามของออสเตรีย-ฮังการีต่อเซอร์เบีย เหตุการณ์ประหลาดเหล่านี้ ผมเข้าใจว่า Haneke ต้องการสะท้อนให้เห็นภาวะที่ยอมจำนนต่อความชั่วร้ายผ่านความไม่รู้ เพราะไม่รู้จริง ๆ หรืออาจจะเพราะแกล้งไม่รู้ ด้วยความรู้นั้นมันช่างสั่นคลอนต่อสถานะ ความเชื่อ และอำนาจ หากเผลอไปยอมรับมัน สุดท้ายแล้วพระและคนอื่น ๆ จะรู้ในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ว่าตัวเองรู้มั้ยนะ หนังดูสนุกและชวนอึดอัด (แต่ไม่มากนัก สำหรับเรื่องนี้นะ) ในสไตล์ฮาเนเคอครับ