top of page

Numero Zero


Colonna เป็นพวกขี้แพ้ อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่ Eco เขียนให้ Colonna บอกว่าตัวเขาเองเป็นนะฮะ "พวกขี้แพ้มักจะรู้อะไร ๆ มากกว่าคนชนะ ถ้าอยากชนะ ให้รู้แค่เรื่องเดียวพอ อย่าเสียเวลากับเรื่องอื่น คนที่พึงใจกับการเจริญปัญญานะมีแต่คนขี้แพ้" เขาตกลงรับเขียนหนังสือ Domani: Yesterday ในฐานะนักเขียนเงาให้ Simei คล้าย ๆ บันทึกขณะทำงานกับหนังสือพิมพ์ซึ่งจะไม่มีวันได้พิมพ์ชื่อ Domani หนังสือพิมพ์รายเดือน พร้อมทั้งตกลงเป็นผู้ช่วย Simei ในฐานะบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ดังกล่าวฉบับปีที่ศูนย์ จุดประสงค์ของนายทุนผู้อยู่เบื้องหลังทำหนังสือพิมพ์นี้คือ จะใช้ฉบับปีที่ศูนย์ทั้ง 12 เล่มข่มขู่ผู้มีอิทธิพล ไม่ว่าจะเป็นการเมืองหรือการเงิน เพราะบทความในหนังสือพิมพ์พาดพิงและเปิดเผยกิจกรรมลับต่าง ๆ ที่มีคนไม่อยากให้เปิดเผย แล้วผู้มีอิทธิพลเหล่านั้นจะกดดันจนหนังสือพิมพ์ปิดตัว นายทุนของเราก็จะได้รับอภิสิทธิบางอย่างแลกเปลี่ยนจากการปิดหนังสือพิมพ์ เราว่า Eco เปิดเรื่องแบบนี้น่าสนใจนะ หลังจากนั้นพัฒนาเป็น 2 สาย คือ สายการประชุมนักเขียนคอลัมน์หนังสือพิมพ์ Domani ซึ่งเป็นเวทีให้ Eco ใช้วิจารณ์การสร้างข่าว การชี้นำต่าง ๆ นานาของสื่อ กับอีกสายคือสายทฤษฎีสมคบคิด การตายของโป๊ป การแทรกแซงของซีไอเอ สาเหตุของวินาศกรรม และอีกหลายเรื่องที่ไม่ค่อยจะเข้าใจเพราะอิตาลีเกินไป Eco ให้นักเขียนคนหนึ่งในกลุ่มเป็นคนหวาดวิตกเอาเรื่องรอบตัวมาโยงเข้าหากันได้หมด และเรื่องที่ยาวที่สุดคือมุสโสลินีไม่ได้ตายตอนสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง ศพนั้นเป็นของปลอม ตัวจริงอยู่อาร์เจนตินา (หรือไม่ก็วาติกัน) สำหรับสายที่สองก็เป็นอีกเวทีให้ Eco ใช้วิจารณ์การเชื่อมข้อเท็จจริงหลาย ๆ ชิ้นด้วยการเติมสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง อันที่จริงไอเดียจากทั้งสองสายไปด้วยกันได้และเข้ากันดี น่าเสียดายที่ผลลัพธ์กลับออกมาน่าเบื่อ มีคำพูดเสียดสีขำ ๆ เข้าท่า ๆ (อย่างพวกขี้แพ้) เยอะ แต่ขาดแรงดึงดูด เพราะเนื้อเรื่องไม่พาไปไหน เราว่าลบบทกลาง ๆ ทิ้ง (เพราะหัวกับท้ายดี) ก็ไม่ก่อให้เกิดความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ เหมือนกับเรื่องนี้ยาวเกินไปถ้าอยากจะพูดแค่อย่าหลงกลสื่อ แต่ขณะเดียวกันก็สั้นเกินไปที่หาความสนุกจากทฤษฎีสมคบคิดการหลบหนีของมุสโสลินีหรือการฆาตกรรมโป๊ปจอห์น ปอลที่ 1


bottom of page