
ตอนที่ชาวอารับคนหนึ่ง ชื่อ Ibn Fadlan ถูกบังคับให้เข้าร่วมคณะนักรบชาวเหนือนำทีมโดย Buliwyf เดินทางไปต่อสู้กับปิศาจผู้มาพร้อมหมอก Eaters of the Dead ในอาณาจักรของกษัตริย์ Rothgar ก็ไม่เอะใจอะไร พอเริ่มสู้รบในหอ Hurot แล้ว Buliwyf ตัดแขนปิศาจได้นี่สิ แถมมันยังจะกลับมาแก้แค้นในร่าง Glowworm Dragon Korgon อีก นึกถึงเรื่อง Beowulf ขึ้นมาทันที พออ่านต่อไปอีก ทีมนักรบของพระเอกเรายังต้องตามไปฆ่าตัวแม่ในถ้ำสายฟ้าจนนำไปสู่การสู้รบครั้งสุดท้าย และความตายกลายเป็นตำนานให้ Ibn Fadlan บันทึกเรื่องราวเล่าขาน เราก็ว่าใช่เลย Michael Crichton กำลังทำนิทานปรัมปราเก่าแก่ของชาวเหนือให้กลับมามีชีวิตจริงอีกครั้ง จนได้อ่าน Factual Note ซึ่งยืนยันความคิดว่าเข้าใจ ว่าไม่ผิดจริง ๆ นี่เป็น Beowulf ในภาคที่ถูกถ่ายทอดโดยสายตาชาวอาหรับ สนุกครับ ผมชอบประโยคความคิดง่าย ๆ ตอนหนึ่งที่นักรบจำเป็นของเราไม่กล้าไต่เชือกลงหน้าผา แล้วบอก Herger ว่า ถ้าให้ฉันไต่เชือกนะ ฉันตกเชือกตายแน่ ๆ Herger หัวเราะใส่แล้วเอาไปเล่าให้ Buliwyf ฟัง Buliwyf ตอบผ่าน Herger นำกลับมาบอก Ibn Fadlan ว่า "Buliwyf says that you shall lose your grip only if you release the rope from your hands, and only a fool would do such a thing. Buliwyf says you are an Arab, but no fool." มันเป็นความคิดตรงไปตรงมา เรียบง่ายดีฮะ ก็อย่าปล่อยมือสิ