ชายชรามีตังค์ใกล้ตายอยากรู้คำตอบของคำถามว่า ความตายใช่จุดสิ้นสุดหรือไม่ เขาส่งดร. บาร์เร็ต พร้อมภรรยากับคนทรงชายหนึ่ง หญิงอีกหนึ่งนามว่าฟิชเชอร์กับฟลอเรนซ์ เข้าไปสำรวจ Hell House บ้านผีสิงซึ่งขึ้นชื่อเรื่องที่สุดแห่งความสยอง เขาให้เวลา 1 สัปดาห์ในการหาคำตอบว่าผีมีจริงมั้ย Matheson ใช้วันและเวลาเป็นตัวแบ่งบท
เราอาจมองทั้ง 4 คนเป็นตัวแทนคน 4 กลุ่มที่รับมือกับเรื่องลึกลับบนปรัชญาคนละแบบ ดร. บาร์เร็ตเป็นนักฟิสิกส์ เขาไม่เชื่อเรื่องผี Hell House จึงเป็นเสมือนตัวเก็บประจุที่เก็บพลังงานบางอย่างซึ่งเป็น power supply ของปรากฏการณ์ พลังงานนี้ไม่มีเจ้าของ ไม่มีการสืบทอดเอกลักษณ์ของบุคคล ไม่มีจุดมุ่งหมาย เป็นแค่ส่วนหลงเหลือ เขาจึงประดิษฐ์เครื่องมือชื่อ Reverser ทำหน้าที่คล้ายโหลดในวงจรไฟฟ้าที่จะรองรับพลังงานจากตัวเก็บประจุ แค่นี้ Hell House ก็ไม่เป็นบ้านผีสิงอีกต่อไป ขณะที่ฟลอเรนซ์รับรู้ถึงวิญญาณมากมายซึ่งถูกกักขังอยู่ภายในบ้าน และถูกชักใยโดยขุนพลคือเบลาสโกผู้ชั่วร้าย วิธีปลดปล่อยบ้านผีสิงของเธอจึงหมายถึงการปลดปล่อยวิญญาณที่ถูกควบคุมเหล่านั้น ตัวละครทั้งคู่มักปะทะกันเพราะตีความบ้านผีสิงคนละแบบ ภรรยาของบาร์เร็ตไม่มีความคิดล่วงหน้าในเรื่องดังกล่าว เธอจึงเชื่อและถูกชักจูงโดยสิ่งที่เห็นขณะนั้น ๆ ความคิดของเธอสามารถกระโดดกลับไปกลับมาระหว่างสองฝั่งได้ คนสุดท้าย ฟิชเชอร์ หนึ่งในผู้รอดตายเพียงคนเดียวจากการสำรวจบ้านผีสิงเฮลเฮ้าส์เมื่อสามสิบปีก่อน เขาเพียงอยากได้เงินค่าจ้าง และรู้ตัวว่า วิธีเดียวที่จะรอดคือสร้างกำแพงปิดกั้นตัวเองจากบ้าน อยู่สงบ ๆ อย่าไปยุ่งกับมัน อ่านสนุกฮะ Stephen King เคยบอกว่า Richard Matheson เป็นนักเขียนที่มีอิทธิพลต่อเขาในฐานะนักเขียนมากที่สุด และพูดถึงหนังสือเล่มนี้ว่า "Hell House is the scariest haunted house novel ever written. It looms over the rest the way the mountains loom over the foothills."