top of page

Artemis

ค่อนข้างน่าเบื่อเมื่อเทียบกับ The Martian และมีความเป็น YA สูงมาก และใช้สูตรธรรมดามากจนแทบไม่เหลืออะไรน่าสนใจ ยกเว้นคุณจะอยากรู้ว่าเราสามารถเชื่อมโลหะบนดวงจันทร์ได้อย่างไร ตัวละครเอก Jasmine เกิดบนโลก แต่ไปโตบนดวงจันทร์อยู่ในกลุ่มโดม 5 โดมที่เรียกว่า Artemis นางจน นางดิ้นรนหาเงิน นางเป็นอาชญากรรายย่อยที่ไม่มีพิษไม่มีภัย เพราะมี ethical code ที่คู่ควรแก่การเป็นนางเอก อยู่มาวันหนึ่ง Jazz ก็เข้าไปข้องเกี่ยวกับเหตุฆาตกรรม พยายามปกป้องเมืองบนตวงจันทร์จนทำให้คนสลบทั้งเมือง สุดท้ายก็รอด เมืองปลอดภัย อาชญากรรายใหญ่ถอนตัว เรื่องยิ่งน่าเบื่อขึ้นไปอีกเมื่อ Jazz หนีไม่พ้นเงาของ Mark Watney สรุปว่าเป็นเรื่องที่ไม่อ่านก็ไม่เสียดายอะไรนะ

ประเด็นเดียวที่สะกิดใจตอนอ่านคือตอนที่ Andy พยายามอธิบายกลไกการป้องกันตัวของ Artemis ยามที่มีอะไรบางอย่างผิดพลาดตรงบริเวณ air lock ที่เป็นช่องเชื่อมต่อระหว่างอากาศภายในโดมกับสุญญากาศนอกโดม จุดที่สะกิดใจเราคือลอจิกที่ดูฟังสมเหตุสมผลเหลือเกินในกรณีที่เกิดเหตุผิดพลาดบางอย่าง ระบบจะตัดทางเชื่อม ยอมเสียสละคนกลุ่มหนึ่งให้ตายแทนที่จะยอมให้ความเสียหายเกิดขึ้นภายในโดม ในทางปรัชญา นี่คือปัญหาตระกูล trolley ของ Philippa Foot ที่โยนภาระการสับคันโยกรถรางให้ตกอยู่กับระบบอัตโนมัติ และเปลี่ยนคน 5 คนเป็นคนที่อยู่ใน Artemis ถ้าพุดให้เจาะจงขึ้นอีกนิด มันคล้ายปัญหาในเวอร์ชั่น fat villain ที่ villain อาจเป็นแค่คนสะเพร่าผู้ทำให้ระบบต้องตัดสินใจละทิ้งเขาเอง ถ้าเหตุเกิดเพราะเขาสะเพร่าหรือทำผิดขั้นตอนแล้วทำให้ระบบตัดเขาออกไป อันนี้เราจะพูดว่าเป็นผลสืบเนื่องจากการกระทำของเขาเอง ซึ่งก็ฟังดูยอมรับได้ แต่ทีนี้ (และนี่คือประเด็น) ถ้าเขาไม่ได้สะเพร่าแต่แค่บังเอิญโชคร้ายล่ะ เราก็เหมือนจะสูญเสียความชอบธรรมที่จะปล่อยให้เขาตายอย่าง fat villain เพราะกรณีดังกล่าวจะเข้ากับปัญหาผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายอวัยวะของ Judith Jarvis Thomson มากกว่า คำถาม ... แล้วความชอบธรรมที่จะปล่อยให้เขาตายยังมีอยู่ไหม


bottom of page