
หลังจากสูญเสียครอบครัว พ่อ แม่ และน้องสาว จากอุบัติเหตุ เด็กชาย Rei ก็โกหกว่าชอบหมากรุกเพื่อความอยู่รอด โดยเพื่อนของพ่อซึ่งเป็นนักหมากรุกมืออาชีพรับเลี้ยงดู และสอนเล่นหมากรุกให้ ชีวิตหลังจากนั้นของเขาก็มีแต่หมากรุก เรื่องนี้เป็นตอนแรกของหนังสองตอน โดยมีชื่อตามสำนวน March comes in like a lion, and goes out like a lamb. (ตอนที่สองใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า March Goes out Like a Lamb ขณะที่ชื่อญี่ปุ่นเหมือนเดิม 3月のライオン เพิ่ม 後編) ในตอนแรก หนังพูดถึงชีวิตของ Rei หลังแยกตัวออกจากครอบครัวที่รับเลี้ยงเขาเพราะมีปัญหากับพี่สาวบุญธรรม สาเหตุของปัญหามาจาก Rei พัฒนาฝีมือหมากรุกก้าวหน้าจนพี่ ๆ ไม่สามารถเอาชนะได้
มี 2 อย่างที่ชอบเป็นพิเศษในหนังเรื่องนี้ 1. ฉากแข่งหมากรุกทำออกมาดี โดยเฉพาะการพูดยอมแพ้ หมากรุกญี่ปุ่นเป็นเกมยาวเมื่อเทียบกับ chess (โดยเฉลี่ยเกมหมากรุกญี่ปุ่นจะยาว 110 moves ขณะที่เชส 80 moves) และมีความแฟนซีสูงกว่า chess เพราะตัวหมากนอกกระดานก็ยัง active ทำให้หมากตายค่อนข้างยาก (possible move ในเชสมีประมาณ 10^120 ขณะที่ในหมากรุกญี่ปุ่น 10^220) และ 2. Shota Sometani ยอมทิ้งความหล่อรับบท Narunobu Nikaido เด็กอ้วนที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทและประกาศตัวเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ Rei ... ตกตะลึง