เปิดเรื่องแบบนิยายฆาตกรรมที่ดูเหมือนหลักฐานและพยานบุคคลจำนวนมากชี้เป้าไปยังผู้ต้องสงสัยซึ่งกลับมีข้อแก้ตัวสมบูรณ์แบบว่าเขาอยู่อีกเมืองหนึ่งขณะเกิดเหตุ นำไปสู่คำถามว่า เป็นไปได้อย่างไรที่คนคนหนึ่งจะปรากฎตัวสองแห่งในเวลาเดียวกัน ลีลาในส่วนเปิดเรื่องท่อนนี้นับเป็น crime/detective fiction ชั้นดีที่ทำให้คนอ่านอยากรู้ว่าอะไรคือทริกของฆาตกร จนมาถึงช่วงต่อก่อนจะเข้าสู่ท่อนที่สองซึ่งมีบรรยากาศแบบ psychological triller ที่เปิดช่องให้แฟน ๆ ของคิงตีความว่า มันอาจจะหลุดพ้นไปจากลักษณะ hardboiled fiction แบบทั่ว ๆ ไป แล้วเข้าสู่ขอบเขตของอะไรบางอย่างที่เหนือธรรมชาติอันเป็นโดเมนของผู้เขียนก็ได้ ทันใดนั้นเอง เราเชื่อว่าแฟน ๆ Bill Hodges Trilogy ที่หยิบเล่มนี้มาอ่านในฐานะสาวกที่ดี แต่มิได้คาดหวังการกลับมาของตัวละคร (ก็ Bill Hodges ตายตอนจบของ End of Watch นี่นา) ต้องถูกดึงดูดให้อ่านชนิดไม่อยากวางหนังสือด้วยแววตาเป็นประกายสดใส เพราะคุณ Holly Gibney ที่เคยใช้ Happy Slapper ฟาดหัว Mr. Mercedes จนกลายเป็นผัก (แต่ต่อมากลับแผลงฤทธิ์ต่อได้อีกอย่างน่ากลัวใน End of Watch) ออกโรงเป็นตัวเอกที่ช่วยคลี่คลายปริศนาทั้งหมด ... ท็อปฟอร์ม พูดว่าในงานชิ้นนี้ คิงเอาอยู่ทั้งกลุ่มนิยาย hardboiled และ horror/supernatural fiction สนุกมากฮะ
ภายในเรื่อง Holly กับนักสืบตัวเอก Anderson ตอนท้าย ๆ มักจะแลกเปลี่ยนคำพูด "There's no end to the Universe." สำหรับงานชิ้นนี้ เราว่ามันแสดงถึง There's no end to the Stephen King!