top of page

อยู่เมืองดัดจริต ชีวิตต้องป๊อป

หนังสือรวมภาพเสียดสีล้อเลียนจากเพจที่ผมไม่เคยติดตาม ไม่เคยกดไลค์ ไม่เคยรู้จักมาก่อนรู้จักหนังสือ ในชื่อเดียวกัน อย่าลืมข้อเท็จจริงนี้กับนัยของมันระหว่างอ่านความเห็นของผมนะฮะ

ภาพในหนังสือล้อเลียนอะไร คำตอบสั้น ๆ คงเป็นสังคม ความเป็นไปของคนซึ่งรวมกลุ่มเป็นสังคมเมืองหลวง อยู่เมืองดัดจริต และคิดว่ามันดัดจริต เป็นภาพสะท้อนความย้อนแย้ง ผลงานหลายชิ้นเองก็เป็นส่วนหนึ่งของความย้อนแย้ง แต่ถ้าเราพูดว่า สิ่งที่เรียกว่าความย้อนแย้งหรือความดัดจริตเป็นเรื่องของการมอง วัตถุเดียวกันที่ถูกมองจากมุมต่างกัน ก็อาจไม่ดัดจริต ฉะนั้นภาพในหนังสืออาจทำร้ายจิตใจใครบางคน พร้อม ๆ กับนำความสะใจมาให้ใครบางคน ผลสืบเนื่องคือ โอกาสที่คนกลุ่มแรกจะอ่านต่ำ (เราไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเชื่อว่าเขาเหล่านั้นเป็นมาโซคิสต์) โอกาสที่คนกลุ่มหลังจะอ่านสูง และไม่ใช่อ่านครั้งแรก แต่เป็นการอ่านซ้ำ ทำให้หนังสือมีฟังก์ชั่นที่เหมือนกับของที่ระลึกนะครับ ฟังก์ชั่นเดียวกับ The Book of Hormones Season 1, 2 ที่คนรักนาดาวบางกอกพึงมี ขณะที่คนไม่เคยดูละคร ก็ไม่รู้จะซื้อไปทำไม เนื้อหาส่วนประมวลเหตุการณ์เป็นข้อความที่ (ถึงแม้ว่าจะเป็น fact แต่ก็เป็น 'selected fact' เพื่อใช้เสริมให้มุมมองของภาพล้อเลียนกับ fact นั้น ๆ มีลักษณะ coherence กัน) สะกิดความทรงจำแบบเดียวกับบทสนทนาในหนังสือฮอร์โมน สั้นเกินกว่าที่จะอธิบายอะไร (แน่นอน เราเดาคำตอบว่าจุดประสงค์ของหนังสือก็ไม่ใช่เพื่อที่จะอธิบายอะไร) แต่สร้างความชอบธรรมให้กับภาพจากฉากในละครที่เอามาเรียงต่อกัน ฉะนั้น สำหรับเราแล้วอยู่เมืองดัดจริตจึงอยู่ในฐานะเป็นหนังสือที่ระลึกของแฟนเพจ

สำหรับชิ้นงานหลายชิ้น ก็มีบ้างที่ชวนคิด ชวนตั้งคำถาม แต่ส่วนใหญ่ เผยแพร่คำสอน

หนังสือถูกออกแบบอย่างดี สวย ภาพพิมพ์มีคุณภาพ แต่ไม่ชอบตรงที่ภาพหรือข้อความซึ่งกินพื้นที่สองหน้า เราจะอ่านข้อความที่อยู่กึ่งกลางระหว่างหน้าไม่ออก จะแบะมากก็กลัวหนังสือหักท่อน เรื่องอื่น ๆ จากนั้นในส่วนของรูปเล่มหนังสือ ถือว่าไร้ที่ติครับ มีอีกจุด ซึ่งบางคนไม่นับเป็นจุดเสีย อาจจะนับว่าเป็นการออกแบบของหนังสือ คือ redundancy เราไม่ได้พูดถึง redundancy ของงานที่สื่อสารแก่นเดียวกัน เพราะในแง่นี้ redundant information จะมีข้อแก้ต่างผ่านคำว่าศิลปะ แต่พูดถึงข้อมูลเช่น สารบัญรูปเล็ก ที่ใช้บอกหน้าของรูปใหญ่ โดยมีชื่อและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับรูปเล็ก แยกออกมาอีกหน้าหนึ่ง ซึ่งข้อมูลก็ซ้ำซ้อนกับรูปใหญ่นั่นแหละ เรามองไม่เห็นประโยชน์ของมันนะ แน่นอน ข้อทุกเรื่องที่เกี่ยวพันกับศิลปะจะอ้างด้วยคำขึ้นต้นว่า "มันไม่จำเป็นสักหน่อยที่ ..." ได้เสมอ


bottom of page