top of page

If it bleeds

[คำเตือน บางส่วนของเนื้อหาสำคัญถูกเปิดเผย] If it bleeds รวมนิยายขนาดสั้น 4 เรื่อง สนุกทุกเรื่อง


เรื่องที่ 3 คือ If it bleeds เป็นเรื่องที่ Holly Gibney ก้าวออกมาเป็นตัวเอกเต็ม ๆ หลังจากที่นางเป็นตัวประกอบในชุด Mr. Mercedes, Finders Keepers, กับ End of Watch มานาน และเป็นนางรองใน The Outsider โดยเหตุการณ์ใน If it bleeds เกิดขึ้นหลังจาก The Outsider เริ่มต้นด้วยเหตุระเบิดในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ซึ่ง Holly เชื่อว่าเป็นฝีมือของ the outsider อีกตัวที่ปรารถนาเสพความเจ็บปวดของมนุษย์ จนต้องเป็นผู้ก่อเหตุแห่งความเจ็บปวดนั้นเสียเอง สำหรับส่วนของแนวเรื่องที่เคลื่อนที่ไปตามพล็อต อันนี้สนุกฮะ เทียบได้กับ 4 เล่มที่พูดถึงก่อนหน้าโดยไม่สนใจเรื่องความยาวและความซับซ้อนนะ แต่การเพิ่มมิติเชิงลึกของตัวละคร โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่าง Gibney กับแม่ของเธอ อันนี้ ดีงามครับ (ตอนอ่าน ภาพของ Holly ในหัวเราไม่ค่อยปรากฎเป็น Cynthia Erivo สักเท่าไร) ... เราไฮไลท์ข้อความหลายประโยคบนหน้าหนังสือ เพราะมันทำให้เชื่อมโยงกับความทรงจำเก่า ๆ หลายอย่าง เช่น "It exists because prople refuse to believe it's there." นี่เป็นประโยคที่ Brad พูดกับ Holly ถึงการที่เรามองไม่เห็นการมีอยู่ของปิศาจ ประโยคนี้ทำให้นึกถึงหนัง neo-noir ยุค 90 ที่ชอบมากเรื่องหนึ่งของ Bryan Singer ก่อนที่เขาจะทำ X-Men (ยุค 90 คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขา สำหรับเรานะ) คือเรื่อง The Usual Suspects ตัวละครตัวหนึ่งรับบทโดย Kevin Spacey (นักแสดงที่ชอบมากอีกคน) พูดตอนท้าย ๆ ว่า "The greatest trick the devil ever pulled was convincing the world he did not exist." ... อีกข้อความ ชอบประโยค "He said that most people like pain, as long as it's not their." ตัวละคร Brad พูดเช่นกัน มันตอกย้ำชื่อเรื่องดีทีเดียว If it bleeds, it leads. ข่าวเลือดท่วมและความฉิบหายของชาวบ้าน ขายได้ (บทนำในหนังสือ Behave ของ Robert Sapolsky พูดทำนองว่า มนุษย์ไม่ได้เกลียดความรุนแรง เราแค่เกลียดและกลัวความรุนแรงที่อยู่ผิด context!)


เรื่องที่ 1 คือ Mr Harrigan's Phone เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Castle Rock (เมืองรวมดาวร้ายในจักรวาลของสตีเวน คิง) เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างเด็กชายกับคนแก่ (เป็นความสัมพันธ์ที่กลับด้านกับ Todd Bowden กับ Arthur Denker ใน Apt Pupil (The Summer of Corruption) แต่อดไม่ได้ที่จะนึกถึง Apt Pupil ... สาเหตุหนึ่งที่ทำให้นึกถึง อาจเป็นเพราะเพิ่งนึกถึง Bryan Singer ในย่อหน้าก่อนหน้า) เด็กชาย Craig เป็นเด็กที่รับหน้าที่อ่านหนังสือให้คุณ Harrigan ฟัง เขาเป็นนักธุรกิจร่ำรวยผู้ย้ายมาใหม่เพื่อหามุมสงบของชีวิตในช่วงปั้นปลาย เป็นความสัมพันธ์ที่อบอุ่นและเป็นมิตร Craig ซื้อไอโฟนให้ Harrigan และในวันที่ Harrigan ตาย เขาก็แอบเอาไอโฟนใส่หลุมไปพร้อมกันด้วย ตอนคิดถึง Harrigan เขาก็จะโทรศัพท์ไปหาในหลุมศพเพื่อฟังเสียงตอบรับ และเล่าเหตุการณ์ส่วนตัวฝากข้อความไว้ น่าประหลาดที่โทรศัพท์ในหลุมฝังศพนี้ใช้งานได้เป็นปี และบางทีก็ส่งข้อความกลับมาหา Craig ด้วย และเรื่องที่เลวร้ายที่เขาเล่า ก็จะถูกคลี่คลายด้วยความตายของใครบางคน มีความเป็น nostalgic นิด ๆ


เรื่องที่ 2 คือ The Life of Chuck ... เราตกหลุมรักเรื่องนี้ จินตนาการและวิธีเล่า amazing ลงตัวมาก เรื่องแบ่งออกเป็น 3 acts ในแบบย้อนกลับ คือเริ่มจาก act iii ไปหา act i โดยใน act iii พูดถึงเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นในเมืองหนึ่งผ่านตัวละครหลักคือ Marty Anderson จู่ ๆ ก็เกิดหลุมยักษ์ทำลายเมือง และป้ายโฆษณาที่ผุดขึ้นทุกหนทุกแห่ง อย่างไม่รู้ที่มาที่ไป รวมถึงประกาศในโทรทัศน์ว่า CHARLES KRANTZ อยู่เหนือรูปของคนคนหนึ่งพร้อมช้อความ 39 GREAT YEARS! THANKS, CHUCK! ใต้รูป ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร และ act นี้ดูเหมือนจะจบลงด้วยความมืด ดวงดาวบนท้องฟ้าค่อย ๆ ดับแสง วันสิ้นโลก ... เราไม่สามารถเขียนถึง act ii และ act i ได้โดยไม่เฉลย ฉะนั้น ลองหาอ่านละกันนะ และใน author's note ท้ายเล่ม คิงบอกว่า เขาเขียน act i หลังจากเขียน act ii กับ act iii จบไปแล้วถึง 1 ปี


เรื่องที่ 4 คือ Rat เกี่ยวกับนักเขียนที่ไปเก็บตัวในกระท่อมกลางป่าทางตอนเหนือของรัฐเมนแล้วทำสัญญากับหนูตัวหนึ่งในแบบ Faustain คล้าย ๆ กับที่เฟาส์ทำสัญญากับเมฟิสโตเฟเลสในบทละครของเกอเท่ แต่เป็นนิยายหนึ่งเรื่องแลกกับชีวิตคนหนึ่งคน


ไป ๆ มา ๆ ในรอบเดือนนี้ทลายกองดองสตีเวน คิง ได้ 3 เล่มแฮะ (มากกว่า 1,500 หน้า) ดีใจ ส่วนหนึ่งเพราะโควิดคืนเวลาให้วันละ 3-4 ชั่วโมงจากการเดินทาง (แม้จะพยายามใช้เวลาช่วงนั้นกับหนังสือเสียงใน audible แต่ก็จบด้วยหลับทุกที) กับเวลา 2 สัปดาห์ที่เดินยากลำบากหลังจากถูกคว้านเนื้อและหนังชิ้นหนึ่งที่ฝ่าเท้า

bottom of page