ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้อยู่ที่ thought experiment คุณครูปรัชญาชวนนักเรียนในชั้น 20 คนร่วมกันทำ thought experiment โดยสมมติว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเช่นระเบิดอะตอมกวาดล้างมนุษยชาติให้สูญพันธุ์ และมีหลุมหลบภัยที่สามารถปกป้องคนได้แค่ 10 คนเป็นเวลา 1 ปี เพื่อให้ 10 คนนั้นสามารถออกมาสืบเผ่าต่อไปได้ พวกเราจะคัดเลือก 10 คน จาก 21 คนในชั้นเรียนนี้กันอย่างไร ครูให้นักเรียนแต่ละคนสุ่มหยิบกระดาษซึ่งเขียนอาชีพและคุณลักษณะประจำตัว เช่น เป็นชาวสวนที่เป็นเกย์ เป็นนักร้องโอเปร่า เป็นวิศวกร เป็นทหาร แต่ละคนก็จะต้องให้เหตุผลว่าทำไมอาชีพอะไรหรือใครควรเข้าหลุบหลบภัย ส่วนตัวครูเองนั้นเป็นตัวละครลับครับ ไม่บอกว่าตัวเองทำอะไร นักเรียนจะต้องตัดสินใจจากความไม่รู้ว่าจะให้ครูเข้าหลุมหลบภัยด้วยหรือไม่ ทั้งเรื่องก็ทำการทดลองนี้ 3 รอบ แต่ละรอบ เราได้เรียนรู้ความลับและจุดประสงค์ซ่อนเร้นของ thought experiment เพิ่มขึ้นทีละเล็กละน้อย แต่น่าเสียดาย เราคาดหวังจุดพี๊คของหนังไว้สูงกว่านี้ เพราะมันดูเหมือนจะพาไปได้ไกลกว่าจุดจบที่เป็น
ตอนต้นเรื่อง ก่อนเริ่ม thought experiment หนังพยายามยัดความเป็นปรัชญาใส่หัวคนดูด้วยปัญหาคลาสสิก 3 ข้อ (1) Infinite monkey theorem ถ้าจับลิงไปนั่งหน้าเครื่องพิมพ์แล้วสอนให้มันจิ้มคีย์บอร์ด แน่นอน มันกดคีย์แบบสุ่ม สมมติว่าลิงเป็นอมรรตัยและมันมีเวลาอนันต์ เป็นไปได้ไหมที่มันจะพิมพ์ Hamlet ของ Shakespeare ได้สำเร็จ (2) Trolley problem อันนี้เป็นปัญหาของ Philippa Foot คุณจะโยกสับรางรถที่กำลังจะพุ่งชนคน 5 คน เพื่อให้มันเปลี่ยนไปพุ่งชนคน 1 คนหรือไม่ (3) Ignorant bliss paradox ซึ่งอันที่จริงก็ไม่ใช่พาราด็อกซ์หรอก คุณกำลังจะตกตึก เรียกเพื่อนที่ดีที่สุด 3 คนให้มาช่วย แต่เพื่อนเห็นว่าถ้าช่วยฉุดคุณขึ้นมา พวกเขาอาจจะตกตึกตามไปด้วย ก็เลยไม่มีใครช่วยคุณ คุณตกตึก แต่ไม่ตาย เพราะคุณเตรียมร่มชูชีพไว้พร้อม แค่จะลองใจเพื่อนเท่านั้น คุณจะคิดว่า คุณไม่น่าจะรู้เลยว่าเพื่อนพวกนี้ไม่ใช่เพื่อนที่ร่วมเป็นร่วมตายกับคุณ ถ้าคุณไม่รู้ คุณอาจจะอยู่อย่างมีความสุขกับเพื่อนสนิทกลุ่มนี้ นั่นคือ Ignorance is bliss!
ยังมี (4) ถ้ำของเพลโตที่แทรกช่วงสั้น ๆ เพลโตเขียนให้โสกราตีสชวนเกลาคอนจินตนาการถึงถ้ำที่มีนักโทษจองจำตั้งแต่เด็ก โดยถูกบังคับให้มองเห็นแค่ผนังถ้ำ ซึ่งด้านหลังของนักโทษเหล่านั้นมีกองไฟ ฉะนั้นนักโทษจึงเห็นแต่เงาของคนหรือสิ่งของต่าง ๆ บนผนังถ้ำ โสกราตีสบอกว่า reality ของนักโทษเหล่านั้นถูกสร้างมาจากเงาโดยไม่รู้ว่ามันเป็นเพียงแค่เงา แต่หมายเอาเป็นความจริง
จะว่าไป ปัญหาทั้ง 4 ข้อนี้ก็มีความสัมพันธ์กับแก่นของหนังนะ